เทศบาลนครเชียงราย จัดงานวันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลนครเชียงราย

วันนี้ (19 มี.ค.66) นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ผู้อำนวยการศูนย์ อปพร. เทศบาลนครเชียงราย เป็นประธานเปิดงานวันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลนครเชียงราย ประจำปี พ.ศ. 2566 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติของสมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยมีผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วน เจ้าหน้าที่ กองพัน อปพร. เทศบาลนครเซียงราย 4 กองพัน รวม 300 นาย เข้าร่วม ที่ ศูนย์ประชุมนครเชียงราย (ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS) ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ตามที่ ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนกลาง ได้กำหนดให้ วันที่ 22 มีนาคม ของ ทุกปี เป็น "วัน อปพร." เพื่อเชิดชูเกียรติความสำคัญของสมาชิก อปพร. ให้ปรากฎแก่ประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งได้ตระหนักถึงความสำคัญของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ที่ได้เสียสละให้ความช่วยเหลือทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เฝ้าระวัง และรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และเป็นการรวมพลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างความสามัคคีระหว่างอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ยกย่องเชิดชูเกียรติของสมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม 
ภายในโครงการฯ มีการอบรม "การสร้างความสามัคคีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์" แก่ผู้เข้าอบรม โดย วิทยากร จากหน่วยงาน กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย พิธีมอบเกียรติบัตรให้กับอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนดีเด่น เชิดชูเกียรติให้แก่สมาชิก อปพร. จิตอาสาเพื่อสังคม และองค์กรภาคเอกชน ที่ได้สนับสนุนส่งเสริมช่วยเหลือ  รวมถึงพิธีสวนสนามเนื่องในวัน "อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน" และรับฟังสารรัฐมนตรี 

อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ถือได้ว่าเป็นเครือข่ายจากภาคประชาชนที่มีบทบาทสำคัญ ต่อการช่วยเหลือ สนับสนุน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชนในทุกพื้นที่ จากที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าอาสาสมัครป้องกันภัยฝ้ายพลเรือนสามารถเป็นพลังสำคัญในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนจากหลาย ๆ เหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุสาธารณภัย อุบัติภัย การสร้างความปลอดภัยทางถนน ตลอดจนการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งจะนำพาประเทศและประชาชนไปสู่ความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนต่อไป