วันที่ 4 ธันวาคม 2568 กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดโครงการขับเคลื่อนความร่วมมือตามแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ “ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy)” ณ โรงแรมเดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี จังหวัดเชียงราย และผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมี นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิด นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับ และมีผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประเทศไทย ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม
การจัดโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนระหว่างไทย สปป.ลาว และเมียนมา ตามแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (2567–2573) หรือ Joint Plan of Action–CLEAR Sky Strategy (2024–2030) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2567 และเพื่อผลักดันให้ความร่วมมือในกรอบอาเซียนเกิดผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืน อีกทั้งเพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงแสวงหาความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
ภายในงานมีการอภิปราย 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ แนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กร และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่เข้าร่วม ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ไทย) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมียนมา กระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมสิงคโปร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้อินโดนีเซีย สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย สถาบัน Chinese Research Academy of Environmental Sciences (CRAES) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ)
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายมีการบูรณาการของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแบ่งกลุ่มป่าเพื่อการบริหารจัดการแบบแปลงใหญ่เสี่ยงเผาไหม้ทั้ง 14 กลุ่มป่า โดยจังหวัดเชียงรายอยู่ในกลุ่มป่าศรีลานนา–ขุนตาล การรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ ส่งเสริมการจัดการและใช้ประโยชน์เศษวัสดุทางการเกษตรทดแทนการเผา ส่งเสริมการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น “เผาจริง จับจริง” และตัดสิทธิ์เกษตรกรในการเข้าร่วมโครงการของรัฐ ตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งยังได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพประชาชน โดยจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น (Clean Room) พื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) รองรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง มุ่งลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวเชียงรายเป็นสำคัญ